บทคัดย่องานวิจัย ปี2559

การพัฒนาระบบการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลำพูน

ศรีวรรณ เรืองวัฒนา พย.ม. พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน ,ธนิตา จิตนารินทร์ พย.บ. พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลลำพูน , กนกรัตน์ มัชชะ พย.ม. พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลลำพูน , แสงอรุณ ใจวงศ์ผาบ พย.ม. พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลลำพูน

บทคัดย่อ

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา :ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีประชากรเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง มากถึง 17 ล้านคน และมีคนเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 6.5 ล้านคน (World Stroke Organization [WSO], 2015) สำหรับประเทศไทย ในปี 2552 พบอัตราตายจากโรคหลอดเลือดสมอง คิดเป็น 24.7 ต่อประชากร 100,000 คน (สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สถิติสาธารณสุข, 2552) การเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย บั่นทอนคุณภาพชีวิต และทำให้ผู้ป่วยสูญเสียภาพลักษณ์จากความพิการ และเป็นภาระของญาติ ครอบครัว (Grieve, 2002) ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาระบบการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ตั้งแต่เข้ารับการรักษาจนจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลลำพูน เพื่อให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์การวิจัย :เพื่อพัฒนาระบบการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

วิธีการวิจัย :การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา (developmental research) เพื่อพัฒนาระบบการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลำพูน โดยใช้แนวคิดเชิงระบบของโดนาบีเดียน (Donabedian, 2003) ศึกษาระหว่างเดือนมิถุนายน 2558 ถึง พฤษภาคม 2559

ผลการศึกษา :ศึกษาในประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 พยาบาลวิชาชีพ จำนวน 25 คน ศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง พบว่า แนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความง่ายไม่ซับซ้อน ร้อยละ 76 มีความสะดวกในการใช้งาน ร้อยละ 72 สามารถใช้ในการดูแลผู้ป่วยได้ ร้อยละ 100 ผู้ปฏิบัติมีความพึงพอใจในการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ร้อยละ 90 และมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติจริง ร้อยละ 100 กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ระหว่างเดือนมิถุนายน 2558 ถึง มิถุนายน 2559 พบอัตราการเข้าถึงบริการ stroke fast track เพิ่มขี้น จากร้อยละ 13.67 เป็นร้อยละ 22.58 ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเมื่อจำหน่าย จากร้อยละ 36.30 เป็นร้อยละ 67.28 และมีอัตราตายลดลง จากร้อยละ 6.33 เป็น 6.45

ข้อเสนอแนะ :ควรมีการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างต่อเนื่อง

คำสำคัญ :การพัฒนาระแบบการพยาบาล, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง